11 วิธีช่วยทำให้คุณเลิกกลุ้มอกกลุ้มใจ เรื่องที่ควบคุมไม่ได้

[Fern751]

อย่ าพึ่งตกใจไปหากคุณเป็นคนที่มักเ ค รี ย ด หรือตื่นตระหนกกับสิ่งต่างๆเพราะเหตุว่านั่นคือเรื่องปกติ

แต่ว่านิสัยอย่ างนี้มันไม่ใช่เรื่องดีนักหรอคอยก เนื่องจากมันส่งผลต่อสภาพจิตใจและชีวิตประจำวันของคุณได้


แม้ว่าการเลิกนิสัยอย่างนี้นั้นอาจจะไม่ได้ง่าย แม้กระนั้นก็มีหนทางอยู่แบบเดียวกัน วันนี้เรา


จึงมีกลเม็ดที่จะสามารถช่วยให้คุณไม่เ ค รี ย ด เมื่อจำต้องประจันหน้ากับสิ่งต่างๆรวมทั้งสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ ไปชมกันเลยว่ามีอะไรบ้ าง

1. ทำความเข้าใจที่จะปล่อยวาง

หนึ่งในมูลเหตุที่ทำให้ท่านชอบท้อแท้อยู่เสมอก็คือการปล่อยวางไม่เป็น การปล่อยวางนั้นย าก

แต่ควรจำไว้ว่ามันมีบางสิ่งบางอย่ างที่คุณเปลี่ยนแปลงไม่ได้อยู่ดี สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นไปแล้วมันไม่อาจจะย้อนกลับคืนมาได้หรอก

ทำไมคุณไม่รับมันแล้วปลดปล่อยมันไปล่ะ ทีนี้คุณจะไปก้าวไปด้านหน้าต่อและโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญจริงๆ

2. โฟกัสกับสิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้ก็พอ

ถ้าในสมัยก่อนคุณทำผิดพลาดไปแล้ว ก็จะต้องมาคิดถึงสิ่งที่คุณสามารถปรับปรุงมันได้ในเวลานี้แทน หากคุณไม่สบอารมณ์กับผลงานในเดือนที่ผ่านมา

ก็ทดลองปรับปรุงตัวเองในช่วงเวลานี้ให้ดีขึ้น อย่ ามัวรีรอที่จะปรับแต่งเพราะเหตุว่ามันอาจจะสายไป เช่นถ้าเกิดคุณสอบตก คุณก็บางทีก็อาจจะต้องสร้างนิสัยใน


การศึกษาขึ้นมาใหม่ ต้องอย่ าลืมว่ามีสิ่งที่คุณสามารถเปลี่ยนมันได้ รวมทั้งควรโฟกัสกับสิ่งพวกนี้จะดีมากกว่า

3. ประยุกต์แผนที่ไม่ต า ย ตัวและก็มีความยืดหยุ่น

อย่ าเพิ่งจะยอมยกธงขาวหากสิ่งต่างๆไม่เป็นอย่ างที่คุณปรารถนา ลองใช้แผนอื่นๆแทนก็ได้

คุณอาจต้องเปลี่ยนแปลงยุทธวิธี แปลงกรรมวิธีการคิด ลองนึกถึงทางแก้ปัญหาแทนที่จะมานั่งกังวลกับสิ่งที่ไม่เป็นดั่งจิตใจ

4. ออกมาจากพื้นที่ปลอดภัย (Comfort Zone)

อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ท่านหายกลุ้มอกกลุ้มใจก็คือการลองทำอะไรที่ไม่เหมือนกันกับเดิมด้วยการเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆเผชิญคนใหม่ๆ

ทดลองทำสิ่งใหม่ๆคุณอาจจะพบว่าตนเองทำเป็นดีกว่าที่คิด ต้องออกมาจากคอมฟอร์ทโซนของตน แล้วคิดให้ต่างไปจากเดิม

5. ตั้งใจปรับปรุงตนเองให้เป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิม

คุณจะต้องพย าย ามปรับปรุงแก้ไขตัวเองให้ดีขึ้น แทนที่จะมัวแต่กังวลใจกับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ เรียนรู้จากข้อผิดพลาดในอดีต

แล้วก็อย่ าพย าย ามเปลี่ยนแปลงอดีตกาลเพราะโน่นคือสิ่งที่คุณควบคุมมิได้ แม้กระนั้นต้องเปลี่ยนพัฒนาตัวคุณให้ดีมากยิ่งกว่าเดิม

6. ใช้เวลากับคนคิดบวก

การกังวลเยอะเกินไปนั้นทำให้คุณสติแตกได้ ทดลองคุยกับเพื่อนฝูงที่มีทัศนคติที่ดี หรือมองโลกในทางบวก

คุยกับผู้ที่เขาตั้งใจฟังคุณ และรู้เรื่องคุณ เล่าให้เขาฟังว่าคุณไม่สบายใจกับอะไร


และเอาข้อแนะนำของพวกเขามาประยุกต์ การคุยกับผู้ที่คิดบวกจะช่วยให้คุณได้มุมมองใหม่ๆมากขึ้นเรื่อยๆ

7. เปิดใจรับการเปลี่ยนแปลง

หลายสิ่งในชีวิตนั้นเกิดเรื่องที่ไม่แน่นอน แต่นี่แหละเป็นปัจจัยที่ทำให้ชีวิตเรานั้นสื่อความหมายขึ้นมาได้ ด้วยเหตุนั้นควรเปิดรับความ

เปลี่ยนแปลง เนื่องจากความเคลื่อนไหวเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเลี่ยงได้

แม้กระนั้นผู้ใดกันแน่จะทราบล่ะว่ามันมีอะไรอยู่ในนั้นบ้ าง อย่ ากลัว รวมทั้งควรเข้าไปค้นหามัน

8. อย่ าโทษตัวเอง

คุณไม่สามารถควบคุมได้ทุกอย่ าง ด้วยเหตุดังกล่าวอย่ าโทษตัวเอง คุณอาจจะเคยทำอะไรแ ย่ๆมาก่อน

แต่ว่าคุณก็สามารถเอามันมาเป็นบทเรียนเพื่อปรับปรุงตัวเองได้ การโทษตนเองมีแต่จะทำให้สิ่งต่างๆ

แ ย่ลง สิ่งที่คุณควรจะทำคือมองหาคนที่เคยทำพลาดแล้วศึกษาว่าเขาปรับปรุงแก้ไขมันได้ยังไง ให้กำลังใจตนเองว่าคุณก็ทำได้เช่นกัน

9. ฝึกสมาธิและมีสติสัมปชัญญะอยู่เสมอ

นั่งสมาธิ ฝึกฝนลมหายใจ ทำให้เป็นประจำประจำวัน แล้วคุณจะพบว่ามันส่งผลดีต่อคุณอย่ างมาก

10. ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต

วิถีชีวิตเป็นหนึ่งในสาเหตุของความกังวล อย่ างเป็นต้นว่า คุณวิตกกังวลว่าตัวเองอ้วนเหลือเกิน แม้กระนั้นคุณก็ยังไม่ยอมทำอะไร

แทนที่จะอยู่เฉยๆเพราะเหตุไรไม่ทดลองเปลี่ยนแปลงมะนทีละเล็กละน้อยล่ะ? ทดลองบริหารร่างกายทุกวี่วัน เลี่ยงอ า ห า ร ขยะ นอนให้เพียง


พอ บางทีคุณอาจจะรู้สึกว่าตัวเองทำไม่ได้หรอก แต่ว่าศัตรูจริงๆก็คือตัวคุณเองนั่นแหละ เพราะฉะนั้นคุณจำเป็นต้องเอาชนะตนเองให้ได้

11. หยุดเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ค หรือทดลองพักเอาไว้ก่อน

การเล่นโซเชียลมีเดียมากจนเกินความจำเป็นนั้นทำให้คุณวิตกกังวลได้ง่ายสุดๆ มันมีการเปรียบตัวเองกับบุคคลอื่นอยู่เสมอ ถ้าหากคุณรู้สึกว่าการ

เล่นโซเชียลมีเดียมันทำให้ท่านรู้สึกแ ย่ คุณก็ควรที่จะเลิกเล่นซะ แล้วหันไปทำอะไรที่มีสาระ หรือให้ความสบายกับคุณแทนจะดีมากกว่า
ฟุ่งซ่าน
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13460/